2 กลุ่ม วิตามินเอ มีหน้าที่สำคัญไหม?

วิตามินเอ มีหน้าที่อย่างไร

วิตามินเอ มีหน้าที่สำคัญต่อการเจริญเติบโต ระบบภูมิคุ้มกัน ดวงตาและสุขภาพโดยรวม มีอยู่ในอาหารตามธรรมชาติ และยังสามารถบริโภคผ่านอาหารเสริม แต่ถ้าได้รับวิตามินเอมากเกินไปอาจเป็นอันตรายและให้โทษแก่ร่างกายได้

วิตามินเอ คืออะไร

วิตามินเอเรียกอีกอย่างว่าเรตินอล เป็น 1 ใน 4 ของวิตามินที่ละลายได้ในไขมันและน้ำมันได้ ซึ่งส่วนใหญ่ถูกเก็บไว้ที่ตับของเรา มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโต และพัฒนาการของร่างกาย นอกจากนี้ยังมีความสำคัญต่อการจดจำของเซลล์ การมองเห็น ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง และส่งเสริมระบบสืบพันธุ์

วิตามินเอ มีอะไรบ้าง

วิตามันเอจากแหล่งอาหารมี 2 กลุ่มที่แตกต่างกัน

  • แหล่งที่มาจากสัตว์: พรีฟอร์มวิตามินเอ อยู่ในรูปแบบวิตามินอยู่แล้ว (เรตินอลและเรตินิลเอสเทอร์) เป็นวิตามินเอที่พร้อมใช้งาน พบในเนื้อสัตว์ สัตว์ปีก ปลา และผลิตภัณฑ์จากนม
  • แหล่งที่มาจากพืช: โปรวิตามินเอ กำลังจะเป็นวิตามินเอ (แคโรทีนอยด์) เป็นวิตามินเอที่ไม่พร้อมใช้งาน โดยทั่วไปแล้วเป็นสารตั้งต้นของวิตามินที่พบในพืช และจะถูกแปลงเป็นวิตามินเอในรูปแบบที่ใช้งานได้ เช่น เรตินอลในร่างกายของเรา ตัวอย่างที่พบบ่อยที่สุดคือ “เบต้าแคโรทีน”

เบต้าแคโรทีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ สารต้านอนุมูลอิสระปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากสารที่เรียกว่าอนุมูลอิสระ

อนุมูลอิสระมีส่วนเกี่ยวข้องกับ

  • มีส่วนทำให้เกิดโรคบางชนิดในระยะยาว
  • มีบทบาทต่อการเสื่อมชราของร่างกาย

แหล่งอาหารที่มีวิตามินเอ

อาหารจากสัตว์และพืชหลายชนิดมีวิตามินเอ การรับประทานอาหารหลัก 5 หมู่ที่มีความหลากหลายนั้นเต็มไปด้วยสารอาหารครบถ้วน การได้รับวิตามินเอจากแหล่งธรรมชาติอาจเพียงพอสำหรับความต้องการในแต่ละวัน

แหล่งอาหารวิตามินเอ จากผักผลไม้และเนื้อสัตว์

อาหารที่มีพรีฟอร์มวิตามินเอสูงที่สุด ได้จาก

  • ไข่แดง
  • ตับ
  • น้ำมันตับปลา
  • ปลาแซลมอน
  • ปลาแมคเคอเรล
  • ปลาเทราท์
  • เชดดาร์ชีส
  • นมและชีส

วิตามินเอมักมาจากแหล่งอาหารจากสัตว์ แต่ร่างกายของเราก็สามารถผลิตวิตามินเอได้จากสารประกอบบางชนิดที่พบในอาหารจากพืชเรียกว่า “แคโรทีนอยด์”

อาหารที่มีโปรวิตามินเอสูง เช่น เบต้าแคโรทีน ได้จาก

  • มันฝรั่งหวาน
  • ฟักทอง
  • แครอท
  • ผักคะน้า
  • ผักโขม
  • กระหล่ำปลี
  • แคนตาลูป
  • มะละกอ
  • พริกแดง

แคโรทีนอยด์พบในผักและผลไม้ในปริมาณต่างๆ เช่น ผักและผลไม้สีเขียวเข้ม ส้ม สีเหลือง และสีแดง มีแคโรทีนอยด์หลายชนิดที่มีหน้าที่แตกต่างกันในร่างกาย เช่นแคโรทีนอยด์บางชนิดที่เราคงเคยได้ยิน ได้แก่ เบต้าแคโรทีนที่สามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอได้ในร่างกาย

วิตามินเอ มีหน้าที่อะไร

วิตามินเอมีส่วนช่วยในการทำงาน ของร่างกายที่สำคัญหลายประการ ได้แก่

  • ช่วยบำรุงสายตา: วิตามินเอเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการรักษาเซลล์ที่รับรู้แสงในดวงตา วิตามินเอช่วยในการผลิตเม็ดสีเหล่านี้
  • เสริมภูมิต้านทาน: การขาดวิตามินเอบั่นทอนการทำงานของภูมิคุ้มกัน เพิ่มความไวต่อการติดเชื้อ
  • การเจริญเติบโตของร่างกาย: วิตามินเอมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเซลล์ในร่างกาย
  • การเจริญเติบโตของเส้นผม: มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเส้นผมอีกด้วย การขาดสารอาหารทำให้ผมร่วงหรือผมร่วง
  • การสืบพันธุ์: วิตามินเอช่วยรักษาภาวะเจริญพันธุ์ มีบทบาทในการพัฒนาตัวอสุจิของเพศชายและไข่ของเพศหญิง และมีความสำคัญต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์

อาการเมื่อขาดวิตามินเอ

การขาดวิตามินเอ อาจเป็นผลมาจากการบริโภคที่ไม่เพียงพอ การดูดซึมไขมันที่บกพร่อง หรือความผิดปกติของตับ การขาดสารอาหารจะลดทอนภูมิคุ้มกันและการสร้างเม็ดเลือด

อาการทั่วไปของการขาดสารอาหารในระยะแรก ได้แก่ ตาบอดกลางคืน เมื่อดำเนินไปต่อไปอาจนำไปสู่อาการที่ร้ายแรง เช่น

  • ตาแห้ง: ภาวะขาดสารอาหารอย่างรุนแรงอาจทำให้เกิดซีโรฟาธาลเมีย ซึ่งเป็นภาวะที่ตาแห้งซึ่งเกิดจากการสร้างน้ำตาน้อยลง
  • ตาบอด: การขาดวิตามินเอ อย่างร้ายแรงอาจทำให้ตาบอดได้
  • ผมร่วง: หากขาดวิตามินเอ ผมของเราจะเริ่มร่วง
  • ปัญหาผิว: การขาดสารอาหาร นำไปสู่สภาพผิวหนังแห้งและหยาบกร้าน
  • ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ: ได้รับวิตามินเอที่ไม่เพียงพอ มีแนวโน้มที่จะติดเชื้อเพิ่มขึ้น

กินวิตามินเอมากเกินมีโทษ

การกินวิตามินเอเกินขนาดทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่เรียกว่า ภาวะวิตามินเอสูง ซึ่งพบได้ไม่บ่อยนักแต่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ สาเหตุหลักมาจากการได้รับประทานวิตามินเอ ในปริมาณที่มากเกินไปจากอาหารเสริม และน้ำมันตับปลา

ผลข้างเคียงจากการกินวิตามินเอในปริมาณมากและโทษที่ตามมา ได้แก่

  • เหนื่อยล้า
  • ปวดหัว
  • หงุดหงิด
  • อาการปวดท้อง
  • ปวดข้อ
  • เบื่ออาหาร
  • อาเจียน
  • มองเห็นภาพซ้อน
  • ปัญหาผิว
  • การอักเสบในปากและดวงตา

หากรับประทานวิตามินเอในปริมาณมาก ในกรณีที่รุนแรงอาจส่งผลให้โคม่าและเสียชีวิตได้

บทส่งท้าย

วิตามินเอเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการทำงานหลายอย่างในร่างกาย มีความสำคัญต่อการทำงานของภูมิคุ้มกัน สุขภาพตา การสืบพันธุ์ และพัฒนาการของทารกในครรภ์ การขาดวิตามินเอและการกินเกินขนาด อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อร่างกาย ดังนั้นในมื้ออาหารควรประกอบไปด้วยผักใบเขียวกับผลไม้สีเข้ม ตับและไข่แดง นอกจากจะได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างครบถ้วน อีกทั้งยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย

KIGKOK
Logo